Category: Tech News

เครื่องมือสร้างคอนเทนต์ด้วย CapCut AI

CapCut AI เครื่องมือสร้างคอนเทนต์แห่งยุคดิจิทัล ในยุคที่วิดีโอคอนเทนต์มีบทบาทสำคัญในโลกธุรกิจ แคปคัทได้ก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องมือตัดต่อวิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ล่าสุด แคปคัทได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อยกระดับการสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจ ทำให้การผลิตวิดีโอคุณภาพสูงเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกขนาดธุรกิจ ที่มา : เครื่องมือแก้ไขวิดีโอแบบครบวงจร & เครื่องมือออกแบบกราฟิกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ประวัติและพัฒนาการของ CapCut CapCut เป็นแอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอที่พัฒนาโดยบริษัท ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่พัฒนา TikTok แอปพลิเคชันนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ใช้ TikTok และผู้สร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วยความสามารถในการตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์หลักของแอปพลิเคชันนี้ การตัดต่อวิดีโอแบบครบวงจร: ตัด ต่อ เพิ่มเอฟเฟกต์ และปรับแต่งวิดีโอได้อย่างง่ายดาย เทมเพลตสำเร็จรูป: มีเทมเพลตวิดีโอหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ เอฟเฟกต์และฟิลเตอร์: มีเอฟเฟกต์และฟิลเตอร์มากมายให้เลือกใช้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอ การปรับแต่งเสียง: สามารถเพิ่มเพลงประกอบ ปรับแต่งเสียง และใส่เอฟเฟกต์เสียงได้ การแปลงข้อความเป็นเสียงพูด (Text-to-Speech): สามารถแปลงข้อความเป็นเสียงพูดได้หลายภาษา

เครื่องมือ Tech Tools สุดล้ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เสร็จไวขึ้น

ทำไมการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี Tech Tools ถึงสำคัญต่อการทำงาน? การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในที่ทำงานมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการทำงาน เนื่องจากการจัดการและประสานงานในทีมที่มีความหลากหลาย  ทำให้เกิดความท้าทายที่ต้องการแนวทางที่เหมาะสม   Texta AI เครื่องมือ Tech Tools อีกอย่างหนึ่งการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจรสร้างและปรับแต่งข้อความทางการตลาดโดยอัตโนมัติ การอนุญาตให้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสร้างภาษาที่มีคุณภาพทางการตลาดจากคำอธิบายที่ตรงไปตรงมา ช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้ 90% เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการสร้างบทความที่สมบูรณ์และเข้าใจ และยังมีภาษาต่าง ๆ มากกว่า 10 ภาษา เช่น อังกฤษ อิตาลี ดัตช์ ญี่ปุ่น อิตาลี รัสเซีย ฝรั่งเศส โปแลนด์ จีน สเปน และอื่น ๆ จะถูกเพิ่มลงในรายการภาษาที่รองรับ ที่มา: What is Texta.ai? Flair เป็นตัวช่วยในการทำงานเพื่อเพิ่มความสามารถในงานด้านกราฟิก หรือ“ภาพโฆษณา”จากการใส่ Keyword ของสินค้าลักษณะการจัดวาง

10 เคล็ดลับการเริ่มต้นช่อง YouTube ให้ปังในปีนี้!

ในยุคที่การเป็น YouTuber กลายเป็นอาชีพในฝันของใครหลาย ๆ คน การเริ่มต้นช่อง YouTube ของตัวเองอาจดูน่าตื่นเต้นและท้าทาย YouTube เป็นแพล็ตฟอร์มเบอร์ 1 ที่ยอดนิยมในตอนนี้ ทำให้ YouTube เป็นช่องทางสำคัญที่เหล่า Creators จะเอาไปใช้เป็นช่องทางในการทำคอนเทนต์ ความนิยมของ YouTube นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื้องเพราะนอกเหนือจากได้ทำงานอย่างสระแล้ว เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ยังสามารถสร้างรายได้อีกด้วย การทำ YouTube นั้นมีแบบ Second job และทำแบบเต็มตัว แต่ปัญหาก็คือจะทำอย่างไรให้ช่องของเราสร้างรายได้ หละ!! เรามี เคล็ดลับการเริ่มต้นช่อง YouTube งั้นเราจะมาหาคำตอบกัน YouTube มีหลายช่องทางในการสร้างรายได้ ซึ่งแต่ละวิธีสามารถเพิ่มรายได้ให้กับทั้งผู้สร้างเนื้อหา (YouTuber) และตัวแพลตฟอร์มเองได้ โดยทั่วไปแล้วรายได้ของ YouTube มาจากการโฆษณาเป็นหลัก แต่นอกจากนี้ยังมีช่องทางอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมรายได้ให้กับแพลตฟอร์มด้วย ต่อไปนี้คือ

5 ภาษาสำหรับ AI ที่โปรแกรมเมอร์ควรรู้ในปี 2024

โลกของปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง การเป็นนักพัฒนา AI ที่ประสบความสำเร็จในปี 2024 และต่อไปนั้น จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญใน ภาษาสำหรับ AI บทความนี้จะเจาะลึกถึง 5 ภาษาโปรแกรมมิ่งที่นักพัฒนา AI ควรเรียนรู้ พร้อมทั้งอธิบายถึงเหตุผลและประโยชน์ของการเรียนรู้แต่ละภาษา โดยจะเน้นถึงความสำคัญและการประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ของ AI     1.Python ภาษาโปรแกรมมิ่งยอดนิยมสำหรับ AI Python เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งระดับสูงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการ AI ด้วยไวยากรณ์ที่อ่านง่ายและเข้าใจได้ ทำให้ Python เป็นภาษาที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้ Python ยังมีไลบรารี่และเฟรมเวิร์กมากมายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการพัฒนา AI เช่น: NumPy: สำหรับการคำนวณเชิงตัวเลขและการจัดการอาร์เรย์ Pandas: สำหรับการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล Scikit-learn: สำหรับการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) รวมถึงอัลกอริทึมต่างๆ

Review ข้อดี-ข้อเสียของการใช้ AI ปัญญาประดิษฐ์ ในเชิงธุรกิจ

การใช้ AI ในธุรกิจ: ก้าวสู่ยุคดิจิทัลที่ชาญฉลาด ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจอย่างรวดเร็ว AI สามารถช่วยให้ธุรกิจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ข้อดีและข้อเสียของการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ ในเชิงธุรกิจเจาะลึกทุกมิติ การนำ ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาใช้ในธุรกิจกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ก็มาพร้อมกับข้อควรพิจารณาหลายประการ ที่มา: ใช้ AI ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างไร ข้อดีของการใช้ AI ปัญญาประดิษฐ์ ในเชิงธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน : AI สามารถทำงานซ้ำๆ ได้รวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ลดต้นทุน : การใช้ AI สามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานได้หลายด้าน เช่น ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงาน ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากมนุษย์ และเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ : AI

Verified by MonsterInsights